เที่ยวตะลอน!!วังเวียง-หลวงพระบาง-เวียงจันทร์ 4คืน5วัน ด้วยงบไม่เกิน 5พัน แล้วคุณจะรัก(ภู)เขา ตอนที่2

"อย่ามัวหาเงิน...จนลืมหาตัวเอง"

ข้ามขอบฟ้าแผ่นน้ำหรือขุ่นเขาทะเลทราย...ไกลแค่ไหนจะไปให้ถึง

ผมต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ที่ผมรีวิวนี้ขึ้นมาผมไม่ได้อะไรเลยแต่สิ่งที่ผมได้คือ ผมอยากให้ผู้อ่านมีความสุข  ได้ออกเดินทาง หาประสบการณ์ชีวิต ออกไปเปิดหูเปิดตา ออกจากรอบที่ชีวิตอันน่าเบื่อ ออกไปทักทายธรรมชาติ สายลม ภูเขา แม่น้ำ ชาร์ตแบตให้กับร่างกาย เพื่อที่จะได้กลับมาทำงาน และต่อสู้กับชีวิตต่อไป นี้แหละคือของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับร่างกาย  

#หลวงพรบาง เมืองมรดกโลก

day3.วันนี้ผมตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะว่า จะเดินทางไปหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ที่ใครๆก็ใฝ่ฝันอยากจะไปให้ได้ และเป็นครั้งแรกที่ผมจะได้ไปหลวงพระบางด้วย ผมตื่นแต่เช้าเก็บกระเป๋า เพราะรถจะมารับผม 9 โมง โดยผมได้ซื้อตั๋วเอาไว้ตั้งแต่แรกที่มาถึงแล้ว  โดยต้องนัดกันว่าจะไปรอที่ไหนเอง ส่วนผมไปรอที่ร้านที่ซื้อตั๋วเลยครับ จะมีรถมารับและไปส่งเราที่ขนส่งสายเหนือ เพื่อไปขึ้นรถตู้อีกทีหนึ่ง  ระหว่างรอเวลาผมก็ออกไปหาอะไรทานที่ตลาดเช้า หาไม่ยากครับ เพราะเมืองวังเวียง เป็นเมืองเล็กๆ
พวกปากน้ำจืด ปลาซิวปลาสร้อย ที่นี้อาหารทะเลไม่มีครับ ถึงมีก็แทบหาไม่เจอเลย ตั่งแต่ผมมายังไม่เจอสักร้านเลย
งูสิงห์ + งูเห่า ผัดเผ็ดคงอร่อย อยู่ไทยซื้อแล้ว
ทานข้าวเปียกครับเช้านี้ เหมือนข้าวต้มแต่ใส่เส้น ราคา10000กีบ (40บาท)
พอถึงเวลาก็มีรถมารับและไปส่งเพื่อขึ้นรถคันนี้ต่อ ที่ขนส่งสายเหนือ  นั่งได้ 10 คน ในตรางเดินรถบอกว่าถึง บ่ายโมงครึ่ง 
เส้นทางที่จะเดินทางไปหลวงพระบางต้องผ่านเมืองกาสีและพูคูนเป็นเส้นทางอันตรายมาก เพราะ
1.เส้นทางต้องไต่เขาตลอด โค้งเยอะมาก ถนนเส้นเล็ก และประกอบกับวันที่ไปฝนตกหนักมาก ทำให้ถนนลื่นและหมอกลงจัดด้วย ทำให้การเดินช้าต้องล่าช้า ผมต้องสวดมนต์ตลอดทางเลย
2.แถมยังมีข่าวเรื่องการซุ่มโจมตีรถท่องเที่ยวระหว่างเมืองกาสีกับพูคูนของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลลาวอีก ผมนั่งตูดไม่ติดเลย ผมคิดว่าถ้ามีการยิงกันจริงทำไม ชาวบ้านหรือคนขับรถไม่กลัว และยังใช้เส้นทางนี้อยู่ ทางการก็ต้องไม่ให้เดินทางแล้วจริงไม เขาก็คงต้องกลัวตายไม่ต่างจากเราหรอก 
แต่ทุกๆอย่างก็ไม่ทำให้ผมลดความกระหายความยากที่จะไปเห็นหลวงพระบาง "คือใดคือกัน" ผมคงไม่มตายที่นี่หรอก แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่คือวิวสวยมาก ภูเขาสับซับซ้อน สูงริบฟ้า เหมือนมังกรกำลังนอนหลับอยู่ ไม่ต้องไปดูที่กุ๋ยหลินเลย ดูที่นี่แหละกุ๋ยหลินเมืองลาวจริงๆ แตกต่างจากจากบ้านเรามาก
รถจะจอดให้เราพัก ครั้งเดียว แถวๆเมืองกาสีเกือบถึงพูคูน วิวสวยมากครับเชื่อไมครับว่า ถ่ายจากที่เดียวกัน ห่างกันครึ่งนาที หมอกมาไว้มาก คนนั่งข้างมองไม่เห็นหน้ากันเลย อ้าปากไม่ได้เลยหมอกเข้าปาก
หลังจากต้องนั่งรถนานถึง 7 ชั่วโมง ก็มาถึงหลวงพระบาง ก็เดินข้ามฝั่งจากที่จอดไปซื้อตั๋วรถกลับเวียงจันทร์ไว้ก่อน เพราะกลัวเต็ม ส่วนใครยังไม่กลับก็ไม่ต้องซื้อค่อยมาซื้อคราวหลังก็ได้
ผมซื้อตั๋วรถกลับรอบ 2ทุ่ม เป็นรถนอนวีไอพี นอนจริงๆ เดียวจะพูดทีหลัง ราคา 140000กีบ (700บาท)จากนั้นเราต้องเข้าเมือง เพราะรถจอดห่างจากเมืองประมาน 2-3 โล โดยนั่งรถตุ๊กๆไป ได้ราคา 15000กีบ/คน (60บาท/คน) ต่อรองได้ แต่ผมขี้เกียจต่อละ หากใครอยากได้ที่พักราคาถูกก็ให้หาแถวๆนี่ได้ ราคา 150+ แต่ผมเลือกที่จะพักในเมืองเพราะมีถนนคนเดิน จะได้เดินดูเมืองได้ 
ผมได้ที่พักแม่โขงมูลอิน คนไทยชอบมาพัก ราคา120000กีบ (600บาท) มีแอร์ น้ำอุ่น ทีวี หลังจากนั้นตั้งใจว่าจะไปชมพระอาทิตย์ตกที่วัดพูสีก่อน เพราะอยู่ในเมือง เดินไปได้ครับ ผมนอนคืนเดียว และเช้าจะคืนห้อง แต่จะขอฝากของเอาไว้ก่อน เพือ่ไปเที่ยว เพราะพรุ้งนี้ผมต้องเดินทางไปเวียงจันทร์แล้ว 
วัดพูสีจะตั้งอยู่บนเขาครับ มีเขาเดียวในเมือง เสียค่าเข้าคนละ 20000กีบ (80บาท)
ต้องเดินขึ้นไป 200กว่าขั้นเอง

พอขึ้นมาแล้วหายเหนื่อย จะเห็นวิวทั้งหมดของเมืองหลวงพระบาง
วันที่ผมไปพระอาทิตย์ไม่ยอมตก ฝนตกแทน

ลงมาด้านล่างจะเป็นตลาดกลางมืดแถวนั้นเลย
มีของขาย ของฝากเยอะ ผมชอบสมุดกับกระเป๋าสวยดี
บุปเฟ่ลาวครับเป็นไฮไลท์ของหลวงพระบางเลย ถ้าท่านไม่กินท่านจะพูดกับใครไม่รู้เรื่อง อยู่ในตรอกเล็ก ต้นๆทางเข้าตลาดมืด ราคา 15000กีบ (60บาท) ตักเท่าไหร่ก็ได้ในฉามเดียว ไม่มีเนื้อสัตว์เลย ก็อร่อยดี ผสมกันมั่วไปหมด ของหวานของคาว 

day4.วันนี้ต้องรีบตื่นเช้าครับ เพราะต้องไปใส่บาตรข้าวเหนียว ที่ทุกคนมาก็ต้องใส่ให้ได้ เพราะเป็นสิ่งต้นๆที่คนมาหลวงพระบางต้องทำกัน จะมีชาวบ้านนำข้าวเหนียวมาขาย พร้อมขนม ราคา 20000กีบ (100บาท) 
ไม่ต้องสงสัยครับ กลับข้าวไม่มี เพราะให้ใส่แต่ข้าวเหนียวกับขนม กลับข้าวต้องนำไปให้ที่วัดเอง

อีกร้านหนึ่งที่ต้องมาให้ได้คือ ร้านกาแฟประชานิยม ดังมาก อยู่ติดแม่น้ำโขง แถวๆที่ผมพัก ถามคนที่นั้นก็ได้รู้จักทุกคน  
ขอบอกราคาหลักร้อย แต่วิวหลักล้าน
จากนั้นก็เดินถ่ายรูปและชมเมือง
หาป้ายนี่ให้เจอนะครับ องค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก พอถึงเวลา 9โมง ผมก็ไปหาเช่ารถมอไซร์ ได้ราคา 80000กีบ (400บาท) เติมน้ำมันเอง ผมเติมไป 8000กีบ (40บาท) รถที่นี่จะแพงหน่อย  ต่อรองกันเอง ทำสัญญาเรียบร้อย และเวลาจอดที่ไหนก็ต้องล็อกให้ดีนะครับ จากนั้นก็รีบไปน้ำตกกวางสี ที่ร้านจะมีแผนที่ให้ไม่ต้องกลัวครับ แต่ให้ผู้อ่านต้องขับด้วยความระมัดระวังหน่อย เพราะที่นี่รถเยอะ และต้องขับทางขาว ไม่เหมือนบ้าน ส่วนใครมาหลายคนหรือขี่มอไซร์ไม่เป็นก็ใช้บริการถรับจ้างหรือทัวร์ก็ได้ครับ ต่อรองราคากันเองมีเยอะ
น้ำตกกวางสี อยู่ห่างจากตัวเมือง 30 โล ต้องเสียค่าเข้าคนละ 20000กีบ (100บาท) ค่าฝากรถ 5000กีบ (20บาท)ทางเข้าจะมีหมีที่ถูกจับได้ แต่ฝรั่งขอซื้อชีวิตไว้ครับ อุทยานเลยเลี้ยงไว้ มีหลายตัว
ชั้นแรกลงเล่นได้ มีที่โดด น้ำเย็นมากชั้นสุดท้ายไฮไลท์ สวยมาก อยากอยู่ตรงนี้นานๆจังเธอด้วยความที่มีเวลาไม่มากนัก ก็ไปน้ำตกตาดแส้ต่อ ต้องขับเข้ามาในเมืองก่อนแล้วออกไปอีกทางหนึ่ง ดูจามแผนที่เลย พอมาถึงจะเสียค่าจอดรถ 5000กีบ (20บาท) และต้องนั่งเรือต่อเพื่อไปน้ำตก คนละ 10000กีบ (40บาท) มีเด็กน้ำทาง ผมเลยร้องเพลง ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน ให้เด็กฟัง และให้เงินไปอีก 2000กีบ เด็กหัวเราะใหญ่เลย
ที่นี่มีบริการนั่งช้างด้วยครับ
เสียค่าเข้าคนละ 15000กีบ (60บาท)
ช่วงที่ผมมาแล้ง น้ำไม่มีเลยจากนั้นก็กลับเข้ามาในเมือง ด้วยความที่ร้อนและคืนห้องไปแล้ว ผมก้ต้องไปอาบน้ำที่ บขส. เป็นห้องน้ำสังกะสี เล็กๆ พออาบได้ ต้องทำใจ ราคาคนละ 5000กีบ (20บาท) และออกไปหาอะไรกินรอเวลารถ
หิวจัดครับ มื้อนี้เลยกินแพงหน่อย
จากนั้นถึงเวลา 2ทุ่ม รถก็ออก เป็นรถที่ว่านอนจริงๆ คือนอนราบไปเลย เหมือนอยู่ในแคปซูน 

day5.ใช้เวลาจากหลวงพระบางไปเวียงจันทร์ 12 ชั่วโมง แต่วันนั้นรถขับไวมาก ใช้เวลา  9 ชั่วโมงเอง ก็ไปถึง ขนส่งเวียงจันทร์ และต้องต่อรถจากขนส่งเวียงจันทร์ไปตลาดเช้าอีก ราคาคนะล 20000กีบ (100บาท) เพื่อไปซื้อตั๋วรถกลับอุดร โดยผมอาศัยแค่ล้างหน้าแปลงฟัน ที่ห้องน้ำ ขนส่ง 
ผมกลับรอบ 10.30 น. ราคาคนละ 22000กีบ (120บาท) 

#เวียงจันทร์

ระหว่างรอรถผมก็เดินเที่ยวเวียงจันทร์ 
วัดพระแก้ว 
ธรรมเนียบรัฐบาลประตูชัย  ประตูแห่งชัยชนะ ไปลอดให้ได้นะครับ แล้วจะทำอะไรประสบความสำเร็จ แต่ละที่สามารถเดินได้ครับ

สรุปค่าใช้จ่าย
1.รถกลับเวียงจันทร์ 700บาท/คน
2.ตุ๊กๆเข้าเมือง 60บาท/คน
3.ที่พัก 600บาท หาร2-300/คน
4.ใส่บาตร 100บาท หาร2-50/คน
5.ค่าเข้าวัดพูสี 80บาท/คน
6.ค่าเข้าน้ำตกกว้างสี 100บาท/คน
7.ค่าเข้าน้ำตกตาดแส้+ค่าเรือ 100/คน
8.ฝากรถ 2 ที่ 40บาท หาร2-20/คน
9.เช่ารถมอไซณ์ 400บาท+ค่าน้ำมัน 40บาท หาร2-220 บาท
10.อาบน้ำ 20/คน
11.รถไปตลาดเช้า 100/คน
12.รถกลับอุดร 120/คน
13.ค่ากิน 500/คน
เท่ากับ 2,370 บาท + เดิม 2570 เท่ากับ 4,940 บาท
แต่ถ้าใครอยากจะซื้อของฝากหรือจะกินมากกว่านี่ ผมคิดว่าก้คงบวกไม่เยอะไปกว่านี่

สุดท้ายนี่ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ

"อย่าให้ความกลัว...มาทำลายความฝันคุณ"