อะไรคือ แอเรีย 51 ( ไขปริศนาแอเรีย 51 )

ไขปริศนาแอเรีย 51 

แอเรีย 51 ฐานทัพลับที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก มันถูกก่อตั้งในปี ค.ศ. 1955 โดยซีไอเอเพื่อพัฒนาและทดสอบโครงการลับที่สุดของกองทัพสหรัฐ โดยชื่อ แอเรีย 51 ถูกตั้งชื่อตามตารางบนแผนที่

ขณะที่มันไม่มีตัวตนอย่างเป็นทางการแต่ทุกวันนี้ภาพถ่ายดาวเทียมทะเลทรายเนวาด้า แสดงถึงรันเวย์ 7 ช่องทาง และโรงเก็บเครื่องบินมากกว่า 25 โรง มันถูกปกคลุมด้วยความลับและการเข้าถึงถูกจำกัดในระดับสูงเสมอ แต่ในที่สุดโครงการในตอนแรกเริ่มเรื่องทั้งหมดจะไม่เป็นความลับอีกต่อไปและความทรงจำจะถูกเปิดเผย ฐานทัพถูกสร้างรอบ ๆ ทะเลสาบที่แห้งไปแล้วชื่อ “กรูมเลก” ซึ่งได้เปรียบทางยุทธวิธี เพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องการก็คือ ที่เหมาะสมในการลงจอดซึ่งสามารถลงจอดทิศใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าลมมาทางไหนและรอบ ๆ ทะเลสาบนี้ก็มีลักษณะแบบนั้น แถมยังถูกป้องกันโดยแนวเทือกเขารอบ ๆ “พาราไดส์ แรนช์” เป็นชื่อแรกที่ตั้งขึ้น พวกเค้าคิดว่ามันจะทำให้ความเข้มงวดของที่นั่นนุ่มนวลขึ้น จึงพยายามโน้มน้าวคนไม่ให้รู้สึกแย่อย่างที่มันเป็น ขณะที่ซีไอเอต้องการคนบางประเภทที่จำเป็นต่อการทำงานที่แอเรีย 51 คนที่ไม่ชอบโอ้อวด พูดมาก และพร้อมที่จะเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับ แอเรีย 51 ถูกสร้างเพื่อหนึ่งในโครงการลับสุดยอดที่เรียกว่า “อะควาโทน” ในปี ค.ศ. 1955 คนจากซีไอเอ กองทัพอากาศ สายลับของล็อคฮีดมาที่ พาราไดส์ แรนช์ เพื่อเริ่มงาน พวกเค้ากำลังทดสอบอาวุธที่สำคัญมากที่สุดในสงครามเย็นอย่าง “เครื่องบินสอดแนมยูทู” ซึ่งรัฐบาลปกปิดว่ามันถูกใช้สำหรับการสำรวจสภาพอากาศ ยูทู คืออาวุธพร้อมกล้องความละเอียดสูงที่ได้รับการออกแบบเพื่อบินที่ระดับความสูง 21,000 เมตร และถ่ายรูปจากขอบชั้นบรรยากาศ ท่ามกลางการแข่งขันด้านอาวุธในสงครามเย็นกับสหภาพโซเวียต เครื่องยูทูคือความหวังของอเมริกาเพื่อติดตามการขยายตัวของคลังแสงนิวเคลียร์ของโซเวียต และมันต้องการนักบินที่หายใจเอาออกซิเจนบริสุทธิ์เพื่อความอยู่รอดในความสูงขนาดนั้นได้ น้ำหนักทุกกิโลที่เพิ่มขึ้น แม้แต่ล้ออาจทำให้เครื่องยูทูนั้นบินได้ต่ำลง เพราะน้ำมันทั้งหมดนั้นอยู่ที่ปีก  ไม่มีทางเลยที่จะเอาปลายปีกนั้นขึ้นจากพื้น พวกเค้าจึงต้องมีที่ค้ำให้ปีกยกขึ้นจากพื้นและทันทีที่ปีกยกขึ้นที่ค้ำพวกนั้นก็หลุดออก เครื่องยูทูนั้นบินเหนือระดับการบินของเครื่องบินโดยสารปกติถึงสามเท่าและบางครั้งก็จะถูกพบเห็นโดยพลเรือน ขณะที่ในกลางยุค 1950 นั้นสงครามเย็นและความสนใจของชาวอเมริกันต่อยูเอฟโอนั้นถึงจุดสูงสุด เครื่องบินสีเงินจึงสร้างความสับสนให้นึกไปถึงยูเอฟโอ ในปี ค.ศ. 1957 เที่ยวบินลับของยูทูนั้นเป็นแหล่งที่มาของรายงานการพบเห็นยูเอฟโอครึ่งหนึ่งที่เกิดขึ้น การทำให้ทั้งหมดนี้เป็นความลับถูกเติมเชื้อไฟด้วยความหวาดระแวงสงครามเย็นและความกลัวในวงกว้างว่าโซเวียตอาจทำลายสหรัฐ แต่การระเบิดของนิวเคลียร์ที่มีมากกว่า 450 ครั้ง ระหว่างปี ค.ศ. 1955-1968 ที่แห่งนั้นก็เกิดข้อเสีย และปลายยุค 1950 แอเรีย 51 ก็มีโครงการลับโครงการใหม่ที่เรียกว่า “อ๊อกซ์คาร์ท” ในสงครามเย็นข้อมูลนั้นเป็นเหมือนอาวุธที่ทรงอานุภาพ โครงการอ๊อกซ์คาร์ทถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือสอดแนมที่ดีที่สุดของอเมริกา หรือเครื่องบินสเตลท์ลำแรกของโลก มันบินได้เร็วและสูงพอที่จะหนีจรวดได้ คนงานหลายพันคนทำงานเพื่อเครื่องบินที่อยู่ภายใต้โรงงานของล็อคฮีดในเบอร์แบงก์รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่แม้จะมีขนาดของการผลิตขนาดใหญ่แต่ตัวโครงการก็ยังคงเป็นความลับ เครื่องบินนั้นต้องสามารถทนต่ออุณหภูมิที่เกิดจากแรงเสียดสีของอากาศขณะบินผ่านชั้นบรรยากาศที่ความเร็ว 2,000 ไมล์ต่อชั่วโมง 93 เปอร์เซ็นต์ของอ๊อกซ์คาร์ทนั้นเป็นไทเทเนียม แต่ความต้องการไทเทเนียมจำนวนมาก อเมริกาจึงต้องทำข้อตกลงกับโซเวียต เมื่อต้นแบบของอ๊อกซ์คาร์ทพร้อมรัฐบาลต้องการย้ายมันไปที่แอเรีย 51 จากสายการผลิตในแคลิฟอร์เนีย แต่เพราะมันยาวเกินไปและปีกก็กว้างเกินไป ชิ้นส่วนจึงถูกแยกออกและลากไปตามทางจากเบอร์แบงก์ไปยังกรูมเลก ภายในแอเรีย 51 คนงานเกือบ 2,000 คน ทำเพื่อเป้าหมายเดียวเพื่อทำโครงการลับสุดยอดให้สำเร็จ อ๊อกซ์คาร์ทคือเครื่องบินสเตลท์ลำแรกของโลก ถูกออกแบบมาเพื่อให้ศัตรูนั้นตรวจจับด้วยเรดาร์ไม่ได้ มันอาจบินจากชายฝังหนึ่งไปยังอีกฝั่งใน 70 นาที แต่วัตถุประสงค์เดียวของมันคือเพื่อการสอดแนม ภาพเกาหลีเหนือที่ถูกปล่อยออกมาโดยซีไอเอและไม่เคยออกสู่สายตาสาธารณะมาก่อน เผยให้เห็นว่าอ๊อกซ์คาร์ท สามารถถ่ายภาพวัตถุบนพื้นดินจากระดับความสูง 27,000 เมตร ขณะบินด้วยความเร็ว 3,500 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างไร แม้มีความพยายามซ่อนเครื่องบินที่เป็นความลับ สายลับก็พบว่าสหภาพโซเวียตได้ภาพวาดของเครื่องบินไปแล้วและได้พบวิธีตรวจจับ อ๊อกซ์คาร์ท คนของแอเรีย 51 ก็จงใจสร้างของปลอมให้โซเวียตนั้นค้นพบในทันที แต่เมื่อบางอย่างนั้นผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่แอเรีย 51 กลไกการปกปิดก็ยกระดับขั้น แม้จะมีการปกปิดอยู่รายล้อมอ๊อกซ์คาร์ทแต่เบาะแสจากอุบัติเหตุในช่วงต้นก็ได้เปิดเผยในหลายสิบปีต่อมา “มันเป็นความสูงระดับต่ำเพื่อทดสอบเครื่องยนต์ซับโซนิค เรามีปัญหากับเครื่องยนต์ในการเร่งไปจนถึงมาร์คสาม เราบินอยู่ทางเหนือของพื้นที่ ซึ่งสูงถึง 25,000 ฟุตมุ่งหน้าลงใต้ และเราเริ่มเข้าสู่สภาพอากาศ บางอย่างรู้สึกไม่ถูกต้อง รู้สึกสูญเสียแรงลมแต่ก็ไม่มีสิ่งบ่งชี้ ทันใดนั้นเครื่องก็เชิดขึ้นพุ่งออกไปและคว่ำและเริ่มพลิกกลับในแนวนอน คุณกู้มันกลับไม่ได้ ผมคิดว่าดีดตัวดีกว่า และดีดลงมาเพราะเครื่องนั้นกลับหัวอยู่” เคน คอลลินส์ หนึ่งในนักบินคนแรก ๆ ที่ได้เห็นและสัมผัสกับอ๊อกซ์คาร์ด ระบุ นี่เป็นครั้งแรกที่รูปของที่เก็บซากเครื่องบินตกของรัฐบาลนั้นถูกเปิดเผย แม้การเก็บกวาดนั้นดีพอที่จะเก็บความลับของจุดตกมาหลายสิบปี แต่ 50 ปีต่อมานักประวัติศาสตร์เครื่องบิน ปีเตอร์ เมอร์ลิน ได้พบจุดเครื่องตกที่รัฐบาลพยายามลบออกจากประวัติศาสตร์ เค้าได้ค้นหาทะเลทรายนี้มาหลายปีโดยใช้ข้อมูลจากเอกสารที่ไม่เป็นความลับแล้ว ณ ปัจจุบัน สนามบินแมคคาร์เรน ลาสเวกัส ที่โรงเก็บเครื่องบินส่วนตัวสำหรับเครื่องเจ๊ตที่ไม่ติดเครื่องหมาย ทุกวันทำงานเหล่าคนงานก็เดินทางอย่างต่อเนื่องไปยังแอเรีย 51 ที่ยังดำเนินการอยู่ โครงการก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนแอเรีย 51 เป็นบ้านอันถาวรของโครงการลับของอเมริกา และความลึกลับยังคงต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ งบประมาณลับประจำปีของทหารนั้นมากกว่า 41,000 ล้านยูโร ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการในสหรัฐ แม้แต่ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเสียสละอย่างมากมายให้แอเรีย 51 ก็ไม่ได้อยู่กับความลับนั้นอีกต่อไป