ตำรวจช็อก !! เมื่อออกลาดตระเวนตามหมู่บ้าน ดันหันไปเห็นบ้านหายไปทั้งหลัง พอไปดูใกล้ๆถึงกับผงะ ไม่อยากเชื่อ

เจอแหล่งซุกไม้ ที่รื้อไปจากโรงพัก ‘สภ.ย่อยปากนคร’ ชี้ ‘ยูซ่อม’ เข้ามาสร้างสมัยเวียดนามอพยพหนีคอมมิวนิสต์ แต่ต่อมาไม่มีตำรวจอยู่โจรเลยมารื้อ ขโมยไม้เนื้อแข็งไปหมด เหลือแต่เสาโด่เด่ อดีตกำนันบอกอย่างนี้เขาเรียกลักทรัพย์ของทางราชการ…
จากข่าวฮือฮา ที่จ.นครศรีธรรมราช นายปรีชา แก้วกระจ่าง อายุ 55 ปี อดีตกำนันตำบลปากนคร และอดีตนายกเทศมนตรีตำบลปากนคร ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนใน จ.นครศรีธรรมราช กรณีได้มีกลุ่มบุคคล แอบขโมยไม้ที่สร้างสถานีตำรวจภูธรย่อยปากนคร ไปเป็นของตนเอง เพื่อให้ฝ่ายที่รับผิดชอบดำเนินการเอาผิดทางกฎหมาย

ทั้งนี้ พบว่าโรงพักดังกล่าวอยู่ในซอยข้างโรงเรียนวัดมุขธารา หมู่1 ต.ปากนคร ซึ่งในอดีตเป็นที่ทำการ สภ.ย่อยปากนคร เป็นอาคารไม้ยกสูงมีใต้ถุน สภาพที่เห็นในปัจจุบันเหลือไว้แต่เพียงเสาปูนและเศษไม้ผุๆ ส่วนไม้เนื้อแข็งถูกขโมยไปหมด โดยอาคารโรงพักดังกล่าวถูกสร้างขึ้นโดยองค์การบริหารวิเทศกิจแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ US0M ซึ่งได้เข้ามาสร้างสถานีตำรวจให้แก่รัฐบาลไทย จำนวนหลายหลัง ในปี 2524 เพื่อรับมือกับปัญหาชาวเวียดนามอพยพขึ้นฝั่งประเทศไทยในขณะนั้น

ในส่วนโรงพักปากนครแห่งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประจำการ ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ตำบลปากนครมานานกว่า 30 ปี จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปอยู่ กลายเป็นโรงพักร้าง

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 58 ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งไปรื้อโรงพัก แล้วนำไม้ที่สร้างโรงพักทั้งหมดขึ้นรถบรรทุกออกจากพื้นที่ไป ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าว อ้างว่าเป็นผู้ประมูลไม้ที่สร้างโรงพักได้ แต่ทาง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กลับไม่ทราบเรื่อง ตนจึงกล้ายืนยันว่า ไม้ที่หายไปนั้นเป็นการขโมยทรัพย์สินของทางราชการแน่นอน

นายปรีชา กล่าวว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ ทราบแล้วว่าไม้ที่หายไปอยู่ที่ไหน พร้อมกับได้บันทึกภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน และตนยังมีข้อมูลสำหรับเรื่องนี้ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับผู้ที่จะเข้ามาตรวจสอบ จึงต้องการให้ผู้รับผิดชอบ อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้ดำเนินการทางกฎหมาย โดยการเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว ในส่วนของตนจะร่วมกับชาวบ้านเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ด้วย.