เรื่องจิงหรือแค่เล่าสืบกันมา สุสานคนเป็น 'วัดพระบาทน้ำพุ' ดินแดนสุดท้ายของชีวิต จะปิดตัวจริงหรือ?

กระแสสื่อโซเชียลโหมกระหน่ำอ้างวัดพระบาทน้ำพุ กำลังจะปิดตัวลงภายใน 3 เดือน ด้วยเหตุที่ว่า ทางวัดประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก มีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น สวนทางกับยอดเงินบริจาค

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ไม่รอช้า ติดต่อขอสัมภาษณ์ พระอุดมประชาทร เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ผู้ให้การอุปการะช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีและเอดส์ พร้อมลงพื้นที่ ณ วัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี

เมื่อย่างเท้าก้าวเข้าวัดพระบาทน้ำพุ ก็รู้สึกได้ถึงความเงียบสงบ สะอาด มีคนคอยต้อนรับตั้งแต่ รปภ.ด้านหน้า และยังมีไกด์คอยนำทางไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในวัด ก่อนทีมข่าวฯ จะทราบภายหลังว่า พวกเขาเป็นผู้ป่วยของที่นี่ด้วย

สำหรับผู้ป่วยที่จะเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ต้องมีใบตรวจโรค ว่าเป็นโรคเอดส์ ต้องไม่มีคนดูแล โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่นี่จะเป็นคนไม่มีญาติ หรือญาติไม่สามารถดูแลได้ โดยพาผู้ป่วยมาส่งไว้ที่นี่ และไม่กลับมาอีกเลยก็มี จากนั้น ทีมข่าวฯ ได้เดินขึ้นมาบนอาคารคนทำดีอวดผี ภายในวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งเป็นอาคารที่พักของผู้ป่วยชาย-หญิง ที่ไม่แข็งแรง

หลวงพ่ออลงกตเข้าเยี่ยมและดูแลผู้ป่วยเป็นประจำ

ลุงชัย วัย 65 ปี เล่าว่า อยู่ที่วัดมีความสุขกว่าอยู่ที่บ้าน

ลุงชัย ชายสูงวัย ติดเชื้อมา 30 กว่าปี

และได้พบกับ ลุงชัย วัย 65 ปี ชายผู้ไม่ค่อยแข็งแรง อาศัยอยู่ที่วัดพระบาทน้ำพุมาหลายสิบปี ลุงชัยพยายามเล่าให้ทีมข่าวฯ ฟังอย่างช้าๆ ว่า เมื่อก่อนเขาทำอาชีพประมงอยู่ที่มหาชัย และได้ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เมื่อตอนอายุ 30 กว่าๆ ทางญาติก็เลยส่งตัวมาอยู่ที่วัดพระบาทน้ำพุ เพราะอยู่ใกล้บ้าน ประกอบกับเมื่ออยู่บ้านลุงชัยมักจะชอบกินเหล้า จึงคิดส่งลุงชัยมาอยู่ที่นี่จะดีกว่า ซึ่งตัวของลุงชัยเองก็มีความสุขที่ได้อยู่ที่วัด เขามีเพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกันหลายคน เข้าอกเข้าใจกัน จนลุงชัยเอ่ยปากว่า เมื่อเขาอยู่ที่นี่เขามีความสุขมากกว่าอยู่ที่บ้านเสียอีก

พี่กลาง สาวประเภทสอง อดีตแดนเซอร์คนงาม อวัยวะเหลือเพียงครึ่ง

ถัดไปอีกไม่กี่เตียง ทีมข่าวฯ ได้เจอกับ พี่กลาง สาวประเภทสองวัย 45 ปี อดีตแดนเซอร์ร้านอาหาร เธอมาอาศัยใบบุญของหลวงพ่ออลงกตได้ 2 ปีแล้ว และพี่กลางยอมรับตรงๆ เลยว่า “ตอนแรกพี่กะไว้ว่าจะมาตายที่นี่” พี่กลางบอกกับทีมข่าวฯ ว่า ตอนนี้ร่างกายของเธอเริ่มโรยรา จาก 32 ประการที่มนุษย์ทั่วไปมี เหลือเพียงแค่ 16 ประการเท่านั้น

พี่กลาง เล่าต่อว่า เมื่อก่อนเธอเป็นแดนเซอร์ร้านอาหาร ด้วยวัยเพียง 20 กว่าๆ ทำให้มีผู้ชายเข้ามาหามากหน้าหลายตา ต่อมาไม่นานเธอรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกาย จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลและพบว่าเธอติดเชื้อ HIV จากใครสักคน ซึ่งเธอบอกว่า ไม่รู้ว่าเป็นคนไหน เพราะตอนนั้นมีผู้ชายเข้าหาหลายคน

พี่กลาง สาวประเภทสอง อดีตแดนเซอร์คนงาม

พี่กลางมักจะชอบหยิบอัลบั้มรูปในสมัยก่อนมาดูเป็นประจำ

ด้วยภาระหน้าตาในสังคม เรื่องอาการป่วยจึงไม่สามารถบอกใครได้ เธอยังคงทำงานเหมือนเช่นคนปกติทุกวัน และต้องจำใจให้บริการลูกค้า โดยบางคนก็ไม่ได้ป้องกัน เพราะความรัก ความใคร่ เธอจึงต้องปล่อยเลยตามเลย ให้บริการความสุขแก่ชายหนุ่มต่อไป และแล้วเงินเก็บกว่าแสนก็ค่อยๆ ร่อยหรอลงจากการรักษาอาการป่วย มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ จนท้ายที่สุดเริ่มมีคนรู้ถึงอาการป่วยของเธอ ญาติพี่น้องต่างหวาดกลัว ไม่มีคนจ้างงาน เธอจึงตัดสินใจขอมาตายที่วัดพระบาทน้ำพุ

แต่แล้วเมื่อเธอได้มาอาศัยอยู่ที่นี่ ก็ทำให้เธอรู้สึกเข้าใจโลกมากขึ้น หลวงพ่ออลงกตจะสอนให้คิดปลง สักวันก็ต้องจากไป สถานที่นี้จึงเหมือนเป็นที่สุดท้ายของชีวิต และเธอเองก็รู้สึกผ่อนคลายมากกว่า จากที่เคยคิดว่าเดี๋ยวก็มาตายที่นี่ เปลี่ยนเป็นไม่ได้คิดว่าตัวเองจะตาย

ทีมข่าวฯ ถามถึงสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่อยากทำมากที่สุด พี่กลางบอกว่า ไม่มีสิ่งที่อยากทำ เพราะได้ทำไปหมดแล้ว ได้อยู่กับแม่ บอกรักแม่ ดูแลแม่จวบจนวันสุดท้ายที่แม่ไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว

ก่อนที่ทีมข่าวฯ​ จะเดินทางต่อ พี่กลางได้ฝากข้อคิดไปยังเด็กรุ่นใหม่ว่า “ความรักเป็นดั่งกุหลาบ หอม สวย สด แต่ทำไมถึงมีหนาม เช่นเดียวกับการจะมีอะไรกับใครสักคนขอให้รักจริง หวังแต่ง มีผัวเดียวเมียเดียว จะได้ไม่ต้องมาเสี่ยงกับโรคร้าย หรือคนที่รักสนุก อย่าคิดเอาแต่ความสนุก ความอยากเพียงอย่างเดียว เพราะไม่เช่นนั้น ความทุกข์จะตามมา จนคุณไม่สามารถเรียกร้องย้อนเวลากลับไปได้”

วัดพระบาทน้ำพุ ที่พึ่งพิงยามยาก

เต้ย และเพื่อนๆ ผู้หลงรักในเสียงเพลง

เต้ย หนุ่มผู้รักในเสียงดนตรี รับเชื้อจากพ่อแม่

เต้ย เด็กหนุ่มไฟแรงวัย 21 ปี มาอาศัยนอนอยู่ที่วัดพระบาทน้ำพุ หลังจากพ่อแม่เสียตั้งแต่เขามีอายุแค่ 9 ขวบ เต้ยโชคร้าย ติดเชื้อ HIV จากพ่อและแม่ แต่เขาก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเด็กหนุ่มทั่วไปไม่ว่าจะเรียนหนังสือ เล่นกีฬา หรือเล่นดนตรี ถึงแม้ว่าเพื่อนๆ รอบข้างจะเข้าใจ แต่ตัวเขาเองยอมรับว่า บางครั้งก็รู้สึกแย่เหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ เขาไม่มีโอกาสเลือกที่จะไม่เป็นได้ ซึ่งหลวงพ่ออลงกตก็คอยสอนและให้กำลังใจเขาอยู่ตลอด

ด้วยความรักในเสียงดนตรี ทำให้ ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ นักร้องเพลงเพื่อชีวิตสุดอมตะ รับเต้ยเป็นลูกศิษย์ คอยสอนทั้งการร้องและเล่นดนตรีให้แก่เขา โดยทุกวันนี้เมื่อนักร้องระดับตำนานทัวร์คอนเสิร์ตที่ใด ก็จะพาเต้ยและกลุ่มเพื่อนๆ ไปเล่นดนตรีกับอาจารย์ปูด้วยกัน ไม่เพียงเท่านั้น ฝีไม้ลายมือของเต้ยไม่ธรรมดา เตรียมออกซิงเกิ้ลเพลง ‘เพียงหวังกำลังใจ’ และ ‘หัวใจสีขาว’ ที่ถูกแต่งขึ้นโดยหลวงพ่ออลงกต ซึ่งในเร็วๆ นี้ อาจจะได้สดับรับฟังเพลงของพวกเขากัน

“หลวงพ่อมักจะสอนให้พวกเราเป็นผู้ให้ เวลาผมไปเล่นดนตรีเปิดหมวก เคยได้รับเงินบริจาคแสนกว่าบาท พวกผมก็จะนำเงินไปช่วยเหลือคนอื่นต่อไป และหลวงพ่อยังให้หมั่นสร้างความดีเป็นบุญกุศลให้ตัวเองด้วยครับ ส่วนตัวผมเองก็อยากฝากไปยังวัยรุ่นคนอื่นๆ ว่าให้ป้องกันและระมัดระวังตัวเองทุกครั้ง หากเป็นไปได้ผมว่าอย่าไปเที่ยวกลางคืนเลยครับ มันมีโอกาสเสี่ยงที่จะไปต่อสถานที่อื่นได้” หนุ่มผิวเข้ม ฝากแง่คิด

ห้องผู้ป่วยที่ร่างกายไม่แข็งแรง จะถูกจัดที่พักให้สะดวก ไม่แออัด

บ้านหลังเล็กๆ ที่พึ่งพิงสำหรับคนป่วยยามทุกข์ยาก

วัดพระบาทน้ำพุ ที่พึ่งยามยาก ในวาระสุดท้ายของชีวิต

หลังจากที่ ทีมข่าวฯ ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ป่วยแล้วนั้น จึงได้สัมภาษณ์พระอุดมประชาทร หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อถามไถ่ถึงเจตนารมณ์ในการเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์

พระอุดมประชาทร เล่าถึงแนวคิดริเริ่มว่า ผู้ป่วยโรคเอดส์เป็นบุคคลที่น่าสงสาร ญาติพี่น้องก็ไม่เอา เพื่อนก็ไม่รัก คนเหล่านี้เหมือนถูกแบนจากสังคม ไม่มีใครแล้ว สิ้นหวัง ไร้ที่พึ่ง จึงคิดว่าควรจะมีสักที่หนึ่งที่สามารถให้ความช่วยเหลือพวกเขาได้ อย่างน้อยๆ มาตายที่วัดยังดีเสียกว่าตายอยู่ข้างถนน ถ้าวัดสามารถช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ก็เหมือนกับช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้วาระสุดท้ายของชีวิตได้เกิดความสงบ และยิ่งคนป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน อีกทั้งญาติๆ ของพวกเขาเองก็ไม่สามารถดูแลได้ ไม่มีคนดูแลอยู่ที่บ้าน บางคนไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง หรือบางคนไปหาใครเขาก็ถูกรังเกียจ โดยส่วนใหญ่ที่มาก็จะเป็นปัญหาครอบครัวทั้งนั้น ทำให้หลวงพ่ออลงกตต้องเป็นที่พึ่งให้พวกเขาต่อไปเรื่อยๆ

เมรุวัดเคยใช้เผาศพสูงสุดวันเดียว 17 ราย

ทีมข่าวฯ ถามหลวงพ่อต่อว่า จำนวนผู้ป่วยที่นี่เพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนหรือไม่นั้น หลวงพ่ออลงกต ให้คำตอบในโจทย์ข้อนี้ว่า ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่าอดีต เนื่องจากปัจจุบันคนที่เป็นโรคเอดส์ไม่มีใครเสียชีวิต เพราะมียาต้านไวรัสที่ดี สมมติมีผู้ป่วย 10 คน ก็จะเป็นพาหะทั้งหมด ฉะนั้น ในวันนี้จะมีคนที่ 11 เพิ่มขึ้นมา พรุ่งนี้จะมีคนที่ 12 เพิ่มขึ้นอีก และแพร่ระบาดเชื้อไปเรื่อยๆ เพราะว่าพวกเขาไม่มีใครที่เสียชีวิต คนที่ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ในอัตราที่ไม่มากเท่านั้นเอง

ขณะที่ในอดีตผู้ป่วยเอดส์เสียชีวิตทุกวัน เมรุของวัดพระบาทน้ำพุ เคยฌาปนกิจศพผู้ป่วยมากที่สุด คือ 17 รายต่อวัน ช่วงนั้นเมรุแทบแตก เพราะเสียชีวิตกันเยอะมาก ต้องเผาศพทุกวัน คนที่เข้ามาอยู่ที่วัด 80-90% เป็นคนที่อาการหนัก มาอยู่ได้ไม่นานก็เสียชีวิต

เมรุแห่งใหม่ของวัด ปัจจุบันไม่ค่อยได้เผาศพ เนื่องจากคนเสียชีวิตลดลง

บางคนอยู่เพื่อรอวันตาย แต่บางคนก็อยู่ที่นี่เพราะความสุขที่มีมากกว่าสังคมนอกวัด

ค่าใช้จ่ายต่อเดือน 4 ล้านบาท! เลี้ยงคน 1,700 คน

สำหรับเรื่อง ค่าใช้จ่ายของวัดพระบาทน้ำพุในปัจจุบันนั้น เฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 4 ล้านบาท โดยเฉพาะค่าอาหารที่วัดต้องแบกรับภาระมากกว่า 1 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าใช้จ่ายอื่นๆ เนื่องจากทางวัดจะซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารเอง เลี้ยงดูทั้งเด็ก คนชรา คนป่วย ประมาณ 1,700 คน หรือคิดเป็นรายหัววันละ 60 บาทต่อวันต่อคน นอกจากค่าอาหารแล้วยังมีค่าสาธารณูปโภคทั่วไป เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าดูแลรักษาซ่อมบำรุงต่างๆ และหลวงพ่อยังมอบเงินให้แก่ทุกๆ คน สัปดาห์ละ 100 บาท เพราะถึงแม้ว่าในวัดจะมีที่พัก มีอาหารให้ครบแล้ว แต่อย่าลืมว่าพฤติกรรมพื้นฐานของมนุษย์ บางครั้งก็อยากกินอย่างอื่นที่วัดไม่ได้จัดไว้ให้ เช่น น้ำอัดลม ขนม ซึ่งจะสามารถนำเงินส่วนนี้ไปซื้อได้

“ทุกวันนี้วัดอยู่ได้เพราะได้รับความช่วยเหลือจากประชาชน โดยไม่ได้ไปรบกวนงบประมาณของรัฐ แค่มีคนมาทำบุญ ทางวัดก็สามารถจัดสรรปันส่วนอย่างพอใช้ และก็มีลูกศิษย์หรือประชาชนทั่วไป มาทำบุญกันตามปกติ วัดเองก็ไม่เคยขาดแคลนเรื่องเงิน สถานะทางการเงินของวัดยังไปต่อได้เรื่อยๆ และทางวัดพระบาทน้ำพุ ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน” เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ปฏิเสธเรื่องวัดขาดงบประมาณ

ปลงกระแสโจมตี เชื่อไม่ดีจริงอยู่ไม่ได้ถึงทุกวันนี้

เคยมีกระแสข่าวออกมาโจมตีวัดพระบาทน้ำพุ ว่าหากินบนซากศพบ้างล่ะ ดูแลผู้ป่วยไม่ดีบ้างล่ะ หรือมีความไม่โปร่งใสในเงินบริจาคบ้างล่ะ หลวงพ่ออลงกต ขอชี้แจงว่า เรื่องการจัดการเงินบริจาค ทางวัดจะมีระบบการทำบัญชีอย่างละเอียดว่า ใช้เงินทำอะไรบ้าง เพราะจะต้องชี้แจงกับประชาชนคนทำบุญให้รู้ว่าวัดนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายอย่างไร

“รู้สึกเฉยๆ กับเรื่องเหล่านี้ ไม่สามารถทำให้คนทั้งโลกมารักหรือมาสรรเสริญได้ทุกคน ขนาดพระพุทธเจ้ายังโดนคนตำหนิ ติเตียน วิจารณ์อย่างไม่รู้ความจริง ซึ่งเป็นธรรมดาของโลกมนุษย์กับความต่างทัศนะ ถ้าไม่ดีจริงก็คงช่วยเหลือเผาศพเป็นหมื่นๆ ศพไม่ได้ จะมีใครมาทำแบบนี้บ้าง และทางวัดดูแลผู้ป่วยดีขนาดนี้ ไม่เคยเก็บเงินจากผู้ป่วยเลยก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเราทำอย่างไร ทำเพื่ออะไร ก็ทำไปได้เรื่อยๆ” เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ กล่าว

พระอุดมประชาทร เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

หลวงพ่อขอยอมเหนื่อยตายดีกว่าที่จะมาเห็นว่าพวกเขาไม่มีที่พึ่ง และจะทำจนกว่าจะหมดกำลัง

เจ้าอาวาส ยัน ไม่ปิดวัด ปักหลักเป็นที่พึ่งจนกว่าจะหมดแรง

เมื่อถามหลวงพ่ออลงกตว่า เหนื่อยบ้างไหม? หลวงพ่อยอมรับว่าเหนื่อย แต่เมื่อมองกลับไปที่พวกเขาทำให้คิดได้ว่า จะมาเหนื่อยไม่ได้ ถ้าไม่มีหลวงพ่อเพียงสักคน คนอีกเป็นพันคนจะไปพึ่งใครได้บ้าง ถ้าความเหนื่อยของหลวงพ่อเพียงคนเดียว ทำให้หยุด เลิกทำ และทำให้คนเป็นพันๆ คนไม่มีที่พึ่ง ขอยอมเหนื่อยตายดีกว่าที่จะมาเห็นว่าพวกเขาไม่มีที่พึ่ง และจะทำจนกว่าจะหมดกำลัง ตอนนี้กำลังกาย กำลังใจยังดีอยู่ก็ทำไปเรื่อยๆ

หลวงพ่ออลงกต ยังกล่าวต่อว่า “วัดพระบาทน้ำพุยังอยู่อย่างมั่นคง ไม่มีทางจะเลิกแน่นอน กระแสข่าวที่ออกมาว่า วัดพระบาทน้ำพุจะปิด ไม่มีเงิน ไม่เป็นความจริง บางคนอาจจะปรารถนาดีสร้างกระแสข่าวให้คนตกอกตกใจ เพื่อให้มาทำบุญกัน แต่หลวงพ่อไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้ที่บอกว่าวัดจะปิดตัวลงเลย”

สิ่งที่หลวงพ่ออลงกตมักจะบอกกับผู้ป่วยอยู่เสมอ คือ อยู่กันด้วยความรักความเอื้ออาทรต่อกัน ช่วยเหลือกัน ให้ทุกคนสบายใจมีความสุข พยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์หรือสร้างบุญสร้างกุศลให้มาก เพราะชีวิตไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกกี่คืนกี่วัน ให้ทุกคนหมั่นสร้างแต่ความดี ทำตัวเป็นประโยชน์ให้มาก และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมาย

อย่างไรก็ตาม การเป็นที่พึ่งของประชาชน เป็นที่พึ่งของสังคม เหมือนกับชื่อของหลวงพ่อ คือ 'พระอุดมประชาทร' ที่แปลความหมายได้ว่า ผู้ที่มีความเอื้ออาทรต่อประชาชนทั้งหลายนั่นเอง.

สำหรับผู้ที่สนใจอยากร่วมบุญกับทางวัดพระบาทน้ำพุ สามารถบริจาคได้ที่ 'บัญชีกองทุนอาทรประชานาถ'

ธนาคารกรุงเทพ สาขาลพบุรี เลขที่บัญชี 289-0-84697-1

ธนาคารทหารไทย สาขาลพบุรี เลขที่บัญชี 304-2-41277-9

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาลพบุรี เลขที่บัญชี 579-2-33730-7

ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนสุรสงคราม เลขที่บัญชี 174-2-39000-0

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาลพบุรี เลขที่บัญชี 111-1-47300-7

ธนาคารธนชาต สาขาลพบุรี เลขที่บัญชี 340-2-14976-7

ธนาคารกรุงไทย สาขาวงเวียนสระแก้ว เลขที่บัญชี 129-0-10020-9

เถ้ากระดูกของผู้ป่วยที่ไม่มีญาติมารับไป ถูกกองอยู่ในพิพิธภัณฑ์

อาจารย์ใหญ่ถูกตั้งโชว์ไว้ในพิพิธภัณฑ์ของวัด